หลายคนคงเคยได้ยิน การซื้อขายรถมือสอง ประเภท ซื้อดาวน์-ขายดาวน์ เปลี่ยนสัญญา หรือ ไม่เปลี่ยนสัญญา ซึ่งหลายคนคงสงสัยว่าคืออะไร แตกต่างจากการซื้อขายรถทั่วไปยังไง วันนี้แอดจะมาอธิบายการซื้อขายรถแบบ ซื้อดาวน์ว่าเป็นยังไง มีข้อดีข้อเสีย ยังไง
![](https://www.bikerthink.com/wp-content/uploads/2021/07/Picture1-5.jpg)
การซื้อขายดาวน์นั้น คือการที่รถคันนั้นยังติดไฟแนนซ์อยู่ แต่ว่าผู้ที่ผ่อนชำระกับไฟแนนซ์ต้องการที่จะขายรถ โดยให้ผู้ที่มาซื้อเป็นผู้ที่มาส่งค่างวดต่อแทน โดยผู้ขายอาจได้ค่าตอบแทนเป็นราคาขายดาวน์ ซ่ึงอาจเป็นจำนวนเงิน ก้อนเล็กๆ หรือ บางครั้งผู้ขายอาจจะปล่อยให้ผู้อื่นมาผ่อนต่อแบบฟรีๆ เลยก็ได้ และมีอีกกรณีหนึ่งก็คือ ผู้ขายขายรถให้ผู้ที่จะมาผ่อนต่อ พร้อมทั้งมอบเงินให้กับผู้ที่มาผ่อนต่ออีกด้วย โดยการซื้อขายดาวน์รถนั้น ก็มีทั้งแบบ เปลี่ยนสัญญากับไฟแนนซ์ และ ไม่เปลี่ยนสัญญา กับไฟแนนซ์ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันไป
การซื้อขายดาวน์แบบเปลี่ยนสัญญา นั้นก็คือการที่ผู้ขายตกลงให้ผู้ซื้อเป็นผู้ผ่อนรถต่อ โดยทำเรื่องเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อกับไฟแนนซ์ และ เปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองรถในเล่มทะเบียน เป็นเจ้าของคนใหม่ ซื้อจะทำให้ผู้ขาย หมดความเกี่ยวข้องกับรถคันดังกล่าวในทันที ซึ่งข้อดีของการซื้อขายแบบนี้ก็คือ ผู้ที่มาซื้อไม่ต้องไปเสียดอกเบี้ยกับการจัดไฟแนนซ์ใหม่ และมีความปลอดภัย 100% เมื่อผ่อนครบจะได้รถมาเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองอย่างแน่นอน แต่ก็มีข้อเสียคือ ขั้นตอนในการเปลี่ยนสัญญานั้น ค่อนข้างที่จะยุ่งยาก และมีค่าใช้จ่ายพอสมควร ในไฟแนนซ์บางเจ้านั้น จะกำหนดให้ผู้ที่มาเปลี่ยนสัญญานั้น ต้องมีคนค้ำประกันในทุกกรณี และ อาจจะบังคับทำประกันชั้น 1 ใหม่ด้วย
การซื้อขายแบบไม่เปลี่ยนสัญญา นั้นก็คือการที่ ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงและส่งมอบรถกันเอง ไม่ผ่านไฟแนนซ์ โดยชื่อเจ้าของรถตามสัญญากับไฟแนนซ์และชื่อผู้ครอบครองตามทะเบียน นั้นจะยังเป็นชื่อเจ้าของตนเก่าอยู่ โดยผู้ที่ซื้อไป ก็จะมีหน้าที่ผ่อนชำระค่างวดรถต่อไป ซึ่งการซื้อขายแบบนี้มีข้อดี ก็คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และมีความสะดวก ต่อผู้ซื้อและผู้ขาย โดยค่อยไปโอนกรรมสิทธิ์รถในภายหลังจากที่ผู้ซื้อผ่อนชำระค่างวดครบแล้ว แต่ก็มีข้อเสียก็คือ อาจะเกิดปัญหา ผู้ที่ซื้อไปไม่ส่งค่างวดต่อ ไฟแนนซ์ก็จะตามมาเก็บกับผู้ขาย ซึ่งจะอ้างไม่ได้ เพราะตามกฎหมายผู้ขายไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ในตัวรถ จึงไม่มีสิทธิ์ขายรถให้กับผู้อื่น หรืออาจเกิดปัญหาในกรณีที่ ผู้ซื้อผ่อนชำระค่างวดครบแล้ว แต่ผู้ขายไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อ โดยการซื้อขายแบบนี้ ควรกระทำกันระหว่างบุคคลที่ไว้วางใจได้ในระดับหนึ่ง