สำหรับสิ่งที่ผู้ขับขี่รถ ไม่ว่าจะรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ นั้นมีความจำเป็นจะต้องรู้และเข้าใจ อีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือ เรื่องของ ประกันรถ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมาก หากรถของเราเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน ได้รับความเสียหาย หรือ มีคนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งสิ่งที่ตามมานั่นก็คือ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรถ และ ค่ารักษาพยาบาลของผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยประกันรถนั้น จะเข้ามามีบทบาทในการช่วยออกค่าใช้จ่ายต่างๆ เหล่านี้ ช่วยลดภาระของผู้ขับขี่ได้อย่างมาก โดยวันนี้แอดจะมาอธิบายว่า ประกันแต่ละประเภทนั้นเป็นอย่างไร
สำหรับประกันรถ นั้นแบ่งออกเป็นสองอย่าง ก็คือ ประกันคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือที่เราเรียกกันว่า พ.ร.บ. ซึ่งถือเป็นประกันภัยภาคบังคับ ที่รถทุกคันจะต้องมีโดยจะถูกให้จัดทำเมื่อมีการต่อภาษี และ ประกันวินาศภัย ซึ่งก็คือ ประกันรถ ชั้น 1,2,3 ที่เราสมัครใจทำด้วยตนเอง
ประกันคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือ พ.ร.บ.ฯ นั้นมีที่มาจาก พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซึ่งกำหนดให้รถทุกคันต้องจัดทำ โดย ประกันภัยชนิดนี้ จะคุ้มครองในความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บและเป็นค่าปลงศพในกรณีเสียชีวิต โดยรายละเอียดเพิ่มเติมนั้นสามารถเข่าไปอ่านได้ที่
ในส่วนของประกันวินาศภัย นั้นก็คือ ประกันที่เรา เลือกจัดทำกับบริษัทเอกชน โดยแบ่งเป็นชั้น 1,2,2+,3 ,3+ ซึ่งมีหน้าที่ในการจ่ายค่าซ่อมรถ หรือที่เราเรียกกันว่า เคลม และ จ่ายเงินสินไหมทดแทนต่อบุคคลภายนอก ( ฝ่ายถูกที่ได้รับความเสียหาย อาจเป็นคู่กรณีหรือผู้โดยสารในรถเราเอง ) สำหรับประกันภัยในแต่ละชั้นนั้น สามรถแบ่งได้ดังนี้
ประกันภัยชั้น 1 จะซ่อมรถให้เราเสมอ ถ้ามีคู่กรณีและเราเป็นฝ่ายผิด จะซ่อมให้คู่กรณีด้วย และอาจมีการรวมถึง ประกันอัคคีภัยต่อรถ และ ประกันรถหาย โดยอาจมีข้อยกเว้นตามกรมธรรม์
ประกันภัยชั้น2+,3+ จะซ่อมรถให้เราเสมอ แต่การเฉี่ยวชนนั้นจะต้องมีคู่กรณี และ ถ้ามีคู่กรณีและเราเป็นฝ่ายผิด จะซ่อมให้คู่กรณีด้วย และอาจมีการรวมถึง ประกันอัคคีภัยต่อรถ และ ประกันรถหาย แล้ว โดยอาจมีข้อยกเว้นตามกรมธรรม์
ประกันภัยชั้น2,3 จะซ่อมรถให้คู่กรณี กรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด